|
:: ระเบียบสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
:: ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2546 ข้อที่
1-22
เพื่อให้การบริหาร การจัดระบบ
การขอ การอนุญาต และการบริการข้อมูลข่าวสารของราชการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบของราชการ
อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา
9 แห่ง พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. 2540 และประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดู
ปลัดกระทรวงแรงงานจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2546"
ข้อ
2[1] ระเบียบนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ข้อ
3 ให้ยกเลิก ระเบียบสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. 2543
ข้อ
4 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งอื่นใดของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้
หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ
5 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับแก่ข้าราชการ ลูกจ้างและผู้ซึ่งมาช่วยปฏิบัติงานในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
ข้อ
6 ในระเบียบนี้
"ข้อมูลข่าวสาร"
หมายความว่า สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราว ข้อเท็จจริงข้อมูลหรือสิ่งใดๆ
ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
"ส่วนราชการ" หมายความว่า
กระทรวง ทบวง กรมและให้หมายความรวมถึงรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานหรือองค์กรของรัฐ
"หน่วยงาน" หมายความว่า
สำนัก กอง หรือหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่ากองในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
"คณะกรรมการ" หมายความว่า
คณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสาร
"กรรมการ" หมายความว่า
กรรมการบริหารข้อมูลข่าวสาร
ข้อ
7 ให้ปลัดกระทรวงแรงงานรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจออกประกาศ หรือคำสั่ง
ตลอดจนวินิจฉัยสั่งการตามที่เห็นสมควรเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
 |
:: หมวด 1 คณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสาร
ข้อ
8 ให้มี "คณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสาร" ในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานประกอบด้วย
รองปลัดกระทรวงแรงงานที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน
ที่ปรึกษากฎหมายผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงานที่ได้รับมอบหมายดูแลงานศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร หัวหน้ากลุ่มงานคลังและพัสดุ หัวหน้ากลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
หัวหน้ากลุ่มงานกฎหมาย หัวหน้ากลุ่มงานตรวจราชการ หัวหน้ากลุ่มงานวิเคราะห์และประเมินผล
หัวหน้ากลุ่มพัฒนายุทธศาสตร์ หัวหน้ากลุ่มแผนงานและงบประมาณ หัวหน้ากลุ่มประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
เป็นกรรมการ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารและบริการสารสนเทศ เป็นกรรมการและเลขานุการ
นิติกร 7 ว กลุ่มงานกฎหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ
9 คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ ดังนี้
(1) พิจารณาออกระเบียบ ประกาศ
หรือคำสั่ง เกี่ยวกับการบริหาร การจัดระบบ การขออนุญาตและการบริการข้อมูลข่าวสารของราชการ
(2) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาประเภทข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผย
หรือข้อมูลข่าวสารที่เป็นความลับของราชการ
(3) ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นเกี่ยวกับประเภทข้อมูลข่าวสารที่ควรจัดเก็บไว้ที่สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน
หรือส่งไปยังหอจดหมายเหตุแห่งชาติกรมศิลปากร หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
(4) พิจารณาและให้ความเห็นในกรณีที่มีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการดำเนินงานตามกฎหมาย
ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ
(5) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
(6) ดำเนินงานอื่นใดตามที่ปลัดกระทรวงแรงงานมอบหมาย
ข้อ
10 การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม
ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก
กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ข้อ
11 ให้นำความใน ข้อ 10 มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานที่คณะกรรมการแต่งตั้งโดยอนุโลม
 |
:: หมวด 2 การจัดระบบข้อมูลข่าวสาร
ข้อ
12 ให้หน่วยงานในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน จัดประเภทข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เป็นไปตาม
พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
ข้อ
13 ให้หน่วยงานในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน รวบรวมข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผยได้ตาม
มาตรา 7
และ มาตรา 9
แห่ง พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ส่งสำเนาให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อจัดเก็บไว้ในส่วนราชการหรือประชาชนเข้าตรวจดู
ศึกษาค้นคว้า หรือขอสำเนาข้อมูลข่าวสาร
ถ้าผู้ขอต้องการสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารตามวรรคแรกให้เจ้าหน้าที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารที่รับผิดชอบเป็นผู้รับรองสำเนาเอกสารดังกล่าวแล้วมอบให้ผู้ขอ
ข้อ
14 ในการดำเนินงานตาม ข้อ 13 ให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจัดให้มีเจ้าหน้าที่เพื่อดูแล
และประสานงานในการดำเนินงานดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อให้ส่วนราชการหรือประชาชนเข้าตรวจดูได้
และมีหน้าที่ต้องนำข้อมูลข่าวสารของราชการตาม มาตรา
7 ส่งไปลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
 |
:: หมวด 3 การขอข้อมูลข่าวสาร การอนุญาต และการรับรองสำเนา
ข้อ
15 ส่วนราชการหรือประชาชนที่มีความประสงค์จะเข้าตรวจดู ศึกษาค้นคว้า หรือขอสำเนาข้อมูลข่าวสารให้ยื่นคำขอเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมทั้งแสดงเหตุผล
และความจำเป็นตามแบบการขอใช้บริการข้อมูลข่าวสาร ของราชการท้ายระเบียบ นี้
การมีคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตาม
มาตรา 15 เป็นการทั่วไป หรือเฉพาะแก่บุคคลใดให้เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. 2540
กรณีผู้มีอำนาจเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามวรรคสองไม่อาจวินิจฉัยได้ว่าข้อมูลข่าวสารใด
เป็นข้อมูลข่าวสารที่ต้องเปิดเผยหรือไม่ ให้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัย
หากมีคำสั่งไม่อนุญาตให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องแจ้งคำสั่งพร้อมเหตุผลแก่ผู้ขอด้วย
ข้อ
16 ข้อมูลข่าวสารใด หากมีกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารนั้นไว้เป็นพิเศษ
การขอข้อมูลข่าวสารและการอนุญาตจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบหรือมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวด้วย
ข้อ
17 การขอตรวจดูข้อมูลข่าวสารหากข้อมูลข่าวสารที่ขออยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น
ให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้ขอกับหน่วยงานที่รับผิดชอบตลอดจนให้คำแนะนำ
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขอตรวจดูข้อมูลข่าวสาร
ข้อ
18 ข้อมูลข่าวสารที่สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน รวบรวม และจัดให้มีไว้ตาม มาตรา
7 และ มาตรา
9 แห่ง พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. 2540 เพื่อเผยแพร่ ขาย หรือจำหน่าย จ่ายแจกให้คิดค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อ
19 การเรียกค่าธรรมเนียมการขอสำเนา หรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารของราชการให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ว่าด้วยการเรียกค่าธรรมเนียมการขอสำเนา หรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารของราชการ
การรับรองสำเนาข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่ง
ให้ข้าราชการที่รับผิดชอบข้อมูลข่าวสารนั้นตั้งแต่ระดับ 2 หรือเทียบเท่าขึ้นไปเป็นผู้รับรองโดยลงลายมือชื่อพร้อมทั้งชื่อตัว
ชื่อสกุล และตำแหน่ง ตลอดจนวัน เดือน ปี ให้ชัดเจน
ข้อ
20 รายได้จากการจำหน่ายข้อมูลข่าวสารตาม ข้อ 18
และค่าธรรมเนียมตาม ข้อ 19 ให้ปฏิบัติตามระเบียบของราชการ
ข้อ
21 การบริการข้อมูลข่าวสารให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
 |
:: หมวด 4 สถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารหรือคำแนะนำในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ
ข้อ
22 ในส่วนกลาง ให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นสถานที่ติดต่อ ให้คำแนะนำและให้บริการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ตลอดจนเป็นศูนย์กลางประสานงานกับส่วนราชการ เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารของสำนักปลัดกระทรวงแรงงาน
ในส่วนภูมิภาคให้สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดเป็นสถานที่ติดต่อให้คำแนะนำ
และให้บริการข้อมูลข่าวสารของราชการ
:: ประกาศ ณ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2546
:: (ลงชื่อ) อภัย จันทนจุลกะ ปลัดกระทรวงแรงงาน
|
|